บันทึกครั้งที่ 5
วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
บรรยากาศในห้องเรียน
คุยเกี่ยวกับใบที่ครูแจกไปครั้งที่แล้วที่ให้เขียนชื่อ และเอาไปติดครั้งที่แล้วแต่ไม่ได้แจกคืนมาเลยต้องทำใหม่และครูก็เขียนบนกระดานให้เอาชื่อที่เขียนใบใหม่ไปติดแบบเิมในช่องที่ตรงกับเรา
วันนี้ทำเรื่องตื่นนอนตอนเช้าเวลาเท่าไร
วันนี้ทำเรื่องตื่นนอนตอนเช้าเวลาเท่าไร
ใคร ตื่น ก่อน 7.00 ตื่น 7.00 หรือ ตื่นหลัง 7.00 ต้องมีกิจกรรมหลายหลากให้เด็กทำ เพื่อส่งเสริม ทักษะทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วม การนำเสนออันนี้เรียกว่ การนำเสนอข้อมูล เด็กจะเรียนรู้เรื่องเวลา ก่อน หลัง และพอรู็แล้วก็เป็นการนำข้อมูลมานำเสนอ การออกแบบสื่อเราต้องคิดถึงภาพรวมใหญ่ๆก่อนและค่อยมาปรับเปลี่ยน การนำข้อมูลมานำเสนอ ก็จะทำให้เห็นถึงตัวเลข ที่หลากหลายเพราะข้อมูลข้อแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กจะได้ ทักษะจำนวนเด็กมาก่อน จะต้องนับก่อนถึงจะบอกจำนวนได้ นับบอกจำนวนใช้ตัวเลขฮินดูอารบิกกำกับ สิ่งที่ไดในแต่ละช่วงวัย ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับข้อตอน
ที่เราทำเป็นวิธีการเรียนรู้ >>>>>>>>
พัฒนาการ >>>>>>>>>>>>>>>
เพื่อนำเสนอ บทความ วิจัย โทรทัศน์ครู
เพื่อนๆต้องแก้ บทความ วิจัย โทรทัศน์ครู ใหม่หมดเลยนำเสนออาทิตย์หน้าค่ะ
พัก 10 นาที
เสร็จก็ร้องเพลงครั้งที่แล้วที่ครูสอนไป
และมีเพลงมาเพิ่มคือ
เพลงแรก เพลง จับปู
เพลง นกกระจิบ
เพลง นับนิ้วมือ
เพลง บวก ลบ
เพลง แม่ไก่ออกไข่
เพลง ลูกแมว 10 ตัว
เพลงสามารถดัดแปลงเพลงได้ โดยครูให้เอาเพลง บวก ลบ มาดัดแปลงเพลง โดยแบ่งเป็นกลุ่มคือ แถวที่นั่ง 1 2 3
เอาเพลง บวก ลบ มาแปลงเพลงเป็น
บ้านฉันเลี้ยงควาย 6 ตัว ลุงให้อีก 4 ตัวนะเธอ
มารวมกันนับดีดีซิเออ ดูซิเธอรวมกันได้ 10 ตัว
บ้านฉันเลี้ยงควาย 10 ตัว หายไป 3 ตัวนะเธอ
ฉันหาควายแล้วไม่เจอ ดูซิเออเหลือเพียงแค่ 7 ตัว
ครูบอกว่าเราไม่ใช่คนเก่งที่วามารถแต่งเพลงได้แต่เราสามารถแปลงเพลงไ้เองโดยใช้ จังหวะเดิม อาจจะแปลงจำนวน หรือแปลงบางส่วน หรือ บางทุกส่วนเหลือเพียงแต่จังหวะทำนองก็ได้
พอร้องเพลงเสร็จ ครูก็เปิดคำคล้องจองให้ดู
กลอน หนึ่ง สอง
หนึ่ง สอง มือตีกลอง ตะแล๊ก แทร๊กแทร๊ก
สาม สี ดูให้ดี
ห้า หก ส่องกระจก
เจ็ด แปด ถือมือแฝด
เก้า สิบ กินกล้วยดิบ ปวดท้องร้อง
โอย โอย
พอครูสอนกลอน หรือคำคลองจ้องเสร็จ ก็ได้ พูดถึงเนื้อหารายวิชา เสร็จแล้วก็ทำเสนอของเล่น
เราเป็นครูทำอะไร ต้องระวัง ถ้าเป็นเด็กต้องถามก่อน ว่า ใครตื่นก่อน 7.00 ใครตื่น 7.00 ใครตื่นหลัง 7.00
นอกจากจะทำท่าทางแล้วทำไงให้เด็กได้ฝึกสมอง เราเป็นครูต้องเรียนรู้แบบทำไปประยุกต์ ปรับเปลี่ยน
ถ้าเปลี่ยนเนื้อร้องเพลง จะเป็นการที่เพิ่มลูกเล่นต่างๆ เด็กจะได้ตื่นเต้นกับอะไรที่ใหม่ๆ
เนื้อหาคณิตศาสตร์มี 6สาระ
เลขตัวสุดท้ายจะเป็นจำนวน
เพลงจะจำได้ง่าย คำคล้องจองจะทำให้เด็กจำได้ง่ายทำให้เกิดความสมดุล และ ความคิดรวบยอด
ลักษณะหลักสูตรที่ดีมีความสมดุลในเรื่องต่อไปนี้
-เน้นกระบวนการคิดและพัฒนาการความคิดรวบยอด
-เน้นารเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาพูดที่สัมพันธ์กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ไม่ใช่การท่องจำ
-แนะนำคำศัพท์ใหม่ๆ และ สัญลักษณ์อย่าค่อยเป็นค่อยไป
-ส่งเสริมให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและค้นคว่าข้อมูลเพื่อให้ได้คำตอบ
-ส่งเสริมให้เด็กเกิดการรับรู้ สามารถบรรยายและค้นคว่าเพิ่มเติม
-เน้นให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดมีทักษะคณิตศาสตร์ไปพร้อมๆกัน
-เปิดให้เด็กได้ค้นคว้าสำรวจ ปฏิบัติรู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง
-ทักษะการเปรียบเทียยบ
-ทักษะการคิดจากประเด็นปัญหาที่อาจารย์ได้ถาม
-ทักษะการฟัง
-ทักษะการจับคู่
-ทักษะการจับคู่
-ทักษะการแก้ปัญหา
-ทักษะกการออกแบบ
-ทักษะการเขียนเพื่อสรุปการเรียนรู้
ใช้ในการทำกิจกรรมจัดสื่อต่างๆให้เข้ากับช่วงไว้ ควรคิดถึงวัตถุประส่งค์อันดับแรก แล้วต้องคิดภาพรวมใหญ่ๆก่อนค่อยมา ปรับเปลี่ยน ได้เรียนรู้กับการใช้เพลงและคำคล้องจองในการสอน เด็กจะสามารถจำได้ง่ายมากกว่า
เทคนิคการสอนของอาจารย์
อาจารย์มีการสอนที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้โต้แย้งเสมอ เคารพการออกความคิดเห็น แฟร์ๆกัน ชอบที่อาจารย์มีการนำเพลง หรือคำคล้องจองมาสอน เพราะมันทำให้คลายเครียดในเวลาร้องเพลง หรือคำคล้องจอง มีการสอนหลักธรรมหีือสอนแทรกคุณธรรมจริยธรรมเสมอ และให้คำแนำนำต่างๆ
ตั้งใจที่อาจารย์สอนให้พูดอยู่เสมอ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอยู่เสมอ มีการจดบันทึกรายละเอียดต่างๆ
เพื่อนๆตั้งใจเรียนมาก ตั้งใจทำกิจกรรมในห้องเรียน มีส่วนร่วมในการตอบคำถามบ้าง มีบางคนจะเล่นๆอยู่เสมอจนโดนอาจารย์ดุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น